เข้าสู้วันที่สี่แล้วคะ เราไปสำรวจลอนดอนกันมาพอสมควรแล้ว จุดไฮไลท์สำคัญๆก็ถือว่าเก็บได้ค่อนข้างครบแล้วคะ ดังนั้นวันนี้เราจะออกไปนอกเมืองกันคะ เพื่อตามลอยหนังเรื่องหนีตามกาลิเลโอ ไปสัมผัส หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (แลดูยิ่งใหญ่อลังการ แต่ถามคนที่เคยไปก็บอกกันว่าไม่เห็นมีอะไร แค่กองหินตั้งๆ) นั้นก็คือ Stonehenge คะ คงไม่บอกว่ามันคืออะไรยังไง เพราะทุกคนคงรู้จักกันดี แต่จะบอกว่าเราไปยังไงคะ หลายคนอาจเลือกที่จะซื้อทัวร์ไป เดาว่าน่าจะนั่งรถโคช จากลอนดอนออกไปแวะที่เมืองBath อะไรประมาณนั้น แต่เด็กน้อยอย่างเราชอบอะไรลุ้นๆตื่นเต้นๆ ขอไปเองแล้วกันคะ
จากที่หาข้อมูลมา วิธีไปก็ก็ไม่ยากเลยคะ นั่งรถไฟจากสถานี waterloo ปลายทางที่่เมือง Salisbury (มันอ่านว่า ซาลส์เบอรี่ ตอนแรกอ่านผิดคนขายตั๋วงงเลย เหอๆ) จากเมืองนั้นจะมีรถบัสให้บริการพาทัวร์อยู่ โดยค่ารถบัสรวมค่าเข้าแล้ว 20 ปอน์ดเลยทีเดียว พอๆกับขึ้น London Eye แถมค่ารถไฟไปกลับจาก ลอนดอนก็ประมาณ 36 ปอน์ด ถ้าจำไม่ผิด ซึ่งถ้าซื้อทัวร์ก็ 60 ปอน์ด ราคาใกล้ๆกันเลย แต่เราชอบความไม่แน่นอน เลยไปเองดีกว่า อิๆ
จากที่พักมาสถานี waterloo เราดันขึ้นรถไฟผิดสายเล็กน้อยเลยต้องย้อนกลับมาคะ เราไม่ได้จองตั๋วไม่ล่วงหน้าคะ เพราะราคาไม่ต่างกัน แถมซื้อไปกลับเลยจะถูกกว่าซื้อทีละเที่ยวคะ ซื้อตั๋วแล้วก็ขึ้นรถไฟเลยคะ รถออก 10:45
รถไฟถึง Salisbury ประมาณเกือบบ่ายแล้วคะ ออกมาหน้าสถานีจะมีป้ายรถโค้ชที่พาไปเที่ยว Stonehenge คะพร้อมตารางเวลาออก บ่ายโมงคะ ซื้อตั๋วกับคนขับได้เลยคะ ตั๋วรวมค่าเข้าแล้วและขากลับสามารถแวะ ปราทาส แถวนั้นได้ด้วยนะ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็เดินทางมาถึงแล้วคะ Stonehenge
ชาญชลาที่ Waterloo คะ เพื่อไปSalisbury |
วิวข้างทาง |
รถไฟถึง Salisbury ประมาณเกือบบ่ายแล้วคะ ออกมาหน้าสถานีจะมีป้ายรถโค้ชที่พาไปเที่ยว Stonehenge คะพร้อมตารางเวลาออก บ่ายโมงคะ ซื้อตั๋วกับคนขับได้เลยคะ ตั๋วรวมค่าเข้าแล้วและขากลับสามารถแวะ ปราทาส แถวนั้นได้ด้วยนะ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็เดินทางมาถึงแล้วคะ Stonehenge
บริเวณโดยรอบแถวนั้นก็เป็นทุ้งหญ้ากว้างๆ เป็นฟาร์มหมูบ้าง แกะบ้างประมาณนั้น
รถโค้ชจอดให้เราลงฝั่งตรงข้ามคะ เพราะประตูทางเข้าอยู่ฝั่งนั้น หยิบเครื่อง audio guide แล้วก็เดินลอดอุโมงไปก็มาโผล่งฝั้งเดียวกับกองหินแล้วคะ เค้าทำทางเดินไว้เป็นอย่างดี เพราะกั้นรั่วไว้ด้วย คือแทบไม่ได้เฉียดใกล้กองหินเลย
อุโมงค์ที่จะลอดไปคะ |
เดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยคะ และเดินกลับมาแวะร้านขายของที่ระลึก
รถที่จะมารับเราเที่ยวถัดไปตอนบ่ายสองโมงครึ่งคะ นั่งกลับมาอีกหน่อยเค้าก็แวะให้เราลงไปชม castle แถวนั้นคะ เราก็ลงมาด้วยความงงๆว่า เอ๊ะแล้ว ขากลับรถจะมากี่โมงหละ แล้วรอที่เดิมมั้ย แต่มีเพื่อนลงเยอะคะ ก็ลงตามเค้าไป เป็นแก๊งเด็กนักเรียน มีคุณครูพามา เราก็เลยตามๆเค้าไป
castle นี้มีอะไรให้ดูมากกว่า กองหินอีก คะ เป็นปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขา ถึงแม่จะเหลือแต่ซากแล้ว แต่ก็มีภาพวาดประกอบให้เราจินตนาการ์ตามไปได้คะ อย่างสะพานที่เชื่อมเพื่อข้ามไปตัวปราสาทก็แอบสู้อยู่ไม่น้อยทีเดียว
เดินไปเดินมาเราก็เจอฝรั่งผู้หญิงคนนึ่งคะ สังเกตุตั้งแต่เมื่อกี้แล้วว่าทำไมลากกระเป๋าเดินทางมาเที่ยวด้วย เค้ามาขอให้เราช่วยถ่ายรูปให้คะ
แล้วก็คุยกัน เค้าบอกว่าจริงๆแล้วมากับเพื่อนอีกคน แต่เพื่อนไม่ยอมมาเที่ยวด้วยเพราะเมื่อวานโดนขโมยล้วงกระเป๋าไปตอนไปดู changing guard ที่ Buckingham อ้าวไปดูมาเหมือนกันเลย เค้าเล่าว่าเพื่อนเข้าของหายหมดเลยๆ ไม่มีอารมณ์เที่ยวแล้ว กลับไปแล้ว เค้าเสียดายที่จองทริปไว้แล้วก็เลยต้องมาคนเดียว เห็นมั้ยคะ ฝรั่งก็ตกเป็นเหยื่อนะ ไม่ใช่แค่คนเอเชีย
หลุมที่คนสมัยนั้นเค้าทำธุระกัน |
ก็นั้นละคะ คราวๆกับ Stonehenge และเมืองเล็กๆ Salisbury เย็นนี้เราไม่มี Twilight shoot นะ เพราะว่าเราต้องย้ายที่พักไปพักแถวๆ สถานี Old street คะแล้วมาตามต่อวันถัดไปคะ
บรรยากาศในเมืองคะ |
สถานีรถไฟ Salisbury |