Friday, February 14, 2014

สองคนเพื่อนตายลุยยุโรป-> Day3: London, UK

วันที่ 3 แล้วคะ ยังคงอยู่ในลอนดอนเช่นเคย แพลนของเราวันนี้ คือ

  1. พระราชวังBuckingham ดูพิธีเปลี่ยนเวรยามทหาร
  2. Natural History Museum ก่อนไปแวะร้านเค้กร้านเดิม  Hummingbird bakery 
  3. ห้าง Harrods  
  4. แวะกินเป็ดย่างที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องไปกิน ขอชิมหน่อยเถอะว่าอร่อยสมชื่อมั้ย 
  5. สุดท้ายเป็น Twilight scene ที่ Millennium Bridge 

เติมพลังด้วยอาหารเช้าที่  Hostel ซึ่งก็มีแต่ขนมปัง นม โยเกิตร์ แล้วก็ Corn flakes เรียบร้อยเราก็พร้อมออกเดินทางคะ ดำดินเหมือนเดิม ปลายทางของเราคือสถานี green park ซึ่งอยู่ใกล้พระราชวัง Buckingham จากที่พักที่เราอยู่คือ สถานี Paddington เราต้องไปเปลี่ยนสายที่ Baker street ขึ้นสายสีเทาไป Green park.

การเดินทางที่นี่ไม่ต้องกังวลคะแต่ละสถานีมีเจ้าหน้าที่ค่อยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด ถ้าคิดไม่ออกว่าต้องไปต่อสายหรือเปลี่ยนสายที่ไหนถามเจ้าหน้าที่ได้เลยคะ ดูยิ้มแย้มกว่าที่ปารีสเยอะ รถไฟที่ลอนดอนดูดีละใหม่คะ ตอนที่เราไปบ้างสถานีก็กำลังปรับปรุง สงสัยได้งบจากการจัดโอลิมปิกรึเปล่าเดาเอา อายุรถไฟที่นี่ปาเข้าไปร้อยกว่าปีแล้วคะพอๆกับปารีสนั้นหละ หวังว่าปารีสคงจะปรับปรุงกับเค้าบ้างนะ




ออกจากสถานีรถไฟเราต้องเดินผ่านสวน Green park คะ

ในไกด์บุ๊คบอกเราว่าวันนี้พิธีจะเริ่มประมาณ 10 โมงเช้าคะ เราก็รีบไปสุดริดถึงที่นั้นสิบโมงพอดีแต่ไม่เห็นมีอะไรเลย เดินไปหน้าวังถึงจะเห็นเค้าเขียนว่า พิธีเริ่ม 11 โมง โอ้วมาเร็วไปตั้งหนึ่งชั่วโมง เราก็เลยไปเดินเล่นรอบๆแถวนั้น ฆ่าเวลาคะ
ด้านหน้าพระราชวังคะ
ดูกันใกล้ๆ
มีคนมารอดูเป็นเพื่อนเราเยอะเหมือนกันนะเนี่ย 


บังเอิญแอบถ่าย
เดินอ้อมมาอีกด้าน เจอขบวนทหารม้าพอดี

ใกล้เวลาพิธีเริ่มแล้วผู้คนจับจองพื้นที่ เราไปถึงก็เริ่มแน่นแล้ว ทำเลที่เราเบียดเข้าไปได้ก็พอใช้คะ ระหว่างที่ผู้คนวุนวาย เบียดเสียดหาที่กัน ตำรวจที่ขี่ม้าก็เข้ามาบอกว่า ให้ระวังคนล่วงกระเป๋านะ ระวังๆกันด้วย ฟังเกือบไม่รู้เรื่องดีว่าเค้าพูดสองรอบ



ยืนรอซักพักขบวนทหารที่ตั้งแถวมาก็เดินเข้าไปภายในวังคะ

ทหารเดินเข้าไปแล้ววว

เข้าไปแล้วทำไรกันไม่รู้มองไม่เห็นคนบังเต็มเบยย

เดินออกกันแล้วค้าา จบแล้ว
 ก็ไม่มีไรมาก ทหารเดินเข้าแล้วก็เดินออก มองอะไรไม่ค่อยเห็นก็เลยไม่ตื่นเต้นเท่าไหร กลับไปถ่ายรูปเล่นในสวนดีกว่า 

เดินทางกันต่อคะ ที่หมายต่อไปของเราคือ Natural History Museum จาก สถานี Green Park เราก็นั่งรถไฟสายสีน้ำเงินไปลงที่สถานี South Kensington แต่ว่าตอนนี้เริ่มหิวแล้ว แวะหาอะไรกินกันก่อนคะ มาอังกฤษทั้งทีไม่ได้กิน Fish and Chip ก็คงมาไม่ถึงอังกฤษสินะ เราก็เข้าร้านมั่วๆเอาคะ ร้านไหนก็มีเมนูนี้อยู่แล้ว 
อร่อยเหมือนกันนะเนี่ย เราสั่งมาแค่จานเดียวคะกินกันสองคน คนขายคง งง ก็ต้องประหยัดเพื่อไปกินขนมคะ อิๆ 


ต่อกันด้วยของหวานคะ เดินมาไม่ไกลเราก็เจอร้านเค้กร้านประจำค่ะ แวะซื้อขนมกันก่อน 

ออกจากร้านเดินมาไม่ไกลก็เจอแล้วคะ Natural History Museum  ใหญ่โตอลังการทีเดียว พี่เลย์ แม็คเคยพามาเที่ยวคะเราเลยมาตามรอย ข้างในก็มีฟอสซิลสัตว์ต่างๆให้ดูมากมายเลยคะ ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น แล้วก็มีพวกแร่ธาตุ ให้ดูด้วย ที่สำคัญ Museum  ที่นี่เข้าฟรีคะ (Museum ในลอนดอนส่วนใหญ่เข้าฟรีคะ แต่โบสถ์เสียเงินคะ) 


เราเดินมาถึงทางเข้า แถวยาวเหมือนกันคะ แต่ก็ไหลเร็ว เค้าแค่ตรวจกระเป๋าคะ เข้ามาข้างในแล้วมีห้องต่างๆมากมาย ไม่รู้จะเริ่มจากไหนก็หยิบแผ่นที่มาดูได้คะ เค้ามีให้บริจาคด้วยนะ 1ปอน์ดคะสำหรับค่าแผนที่ 

ต่อแถวคะ



โครงกระดูกไดโนเสาร์ที่ตั้งอยู่กลางห้องโถงใหญ่
สัญลักษณ์ของที่นี่ละคะ

แผนที่คะ หนึ่งปอน์ดแทนค่าเข้า เอามาเป็นที่ระทึก 


ชอบที่นี่คะเค้าทำแบบจำลองมาไว้ให้เราจับต้องได้ด้วย



ห้องนี้อัดแน่นมาก



ตื่นตาตื่นใจกับพิพิธภัณฑ์ที่นี่แล้วเราก็ไปแวะ shopping ให้คนอื่นที่ห้างดังอย่าง Harrods กันคะ 
จาก South Kensington นั่งรถไฟย้อนกลับไปสถานีเดียวคะ ลงที่ Knightsbridge แค่ยังไม่ออกจากสถานีเราก็รู้แล้วละคะว่ามาไม่ผิดแน่นอน เพราะได้ยินเสียงคนไทยคุยกันเต็มเบย ใช่ชัวร์ๆ


เรามาเดินเล่นดูบรรยากาศคะ สำรวจราคาให้เพื่อนๆ ที่ฝากช๊อบแล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาซื้อใหม่คะ ระหว่างนั้นเราต้องหาร้านที่มี wi-fi  เพราะว่าวันนี้นัดเพื่อนไว้คะ เลยแว๊บเข้าร้าน Starbucks ที่พึ่งของเรา



ขนาดในร้านกลางกรุงลอนดอน ยังเขียนเตือนกันแบบนี้ก็ต้องระวังตัวกันไว้นะคะ อย่าเผลอค่ะ เพราะพวกมิจฉาชีพมันจ้องอยู่ตลอดเวลาเผลอเป็นเจอดี อันนี้จากประสบการณ์จะอยู่ที่ไหนก็ให้ระวังตัวไว้ดีที่สุดคะ 

เราติดต่อเพื่อนได้แล้วคะ เค้านัดให้ไปเจอที่สถานี green park ก็นั่งรถไฟสายเดิมย้อนขึ้นไปสถานีเดียวคะ เพื่อนตั้งใจจะพาไปกิน English Afternoon  tea แต่ว่าเรานัดเจอกันก็เกือบจะเย็นแล้วร้านเค้าไม่เสริฟแล้วคะ ก็เลยเปลี่ยนแผนลากเพื่อนไปกินเป็ด Four Season แทน เพื่อนบอกว่าไม่เห็นรู้จักเลย (เพื่อนเป็นฝรั่งนะ) แปลว่ามันคงดังแต่ในกลุ่มคนเอเชียสินะ อิๆ รู้สึกว่านั่งกินที่ร้านไปค่อยประทับใจเท่าไหรนะ เพราะลูกค้าเค้าเยอะคะ พอกินเสร็จก็ไซโควให้เราต้องรีบลุกออก เสียมารายาทมาก สวนรสชาตินั้นดีสมคำล้ำลือคะ น้ำราดไม่เหมือนที่บ้านเราอร่อยไปอีกแบบคะ



แยกย้ายจากเพื่อนฝรั่ง โปรแกรมสุดท้ายของเราในวันนี้ก็คือ Twilight shoot ที่ Millennium Bridge คะ เพื่อนบอกว่านั่งรถเมล์ไปได้นะ เราก็เลยไปมั่งรถเมล์คะ จำสายไม่ได้แล้ว แต่ลงที่ป้าย St. Paul Cathedral แล้วเดินตามป้ายบอกทางไปคะ ก็เจอเลย ลากันด้วยภาพโทนน้ำเงินๆ แล้วกันนะ 
ขอบอกว่าขึ้นไปถ่ายบนสะพานหนาวมากกก 


ใครนึกถึง Harry Potter บ้าง

ใต้สะพาน

บนสะพาน


Monday, December 9, 2013

สองคนเพื่อนตายลุยยุโรป-> Day2: London, UK

มาต่อกันวันที่สอง เรายังอยู่ในลอนดอนคะซึ่งวันนี้จะไปตามรอยพี่เลย์ แม็ค ที่ Portobello market  ตลาดเก๋ๆที่ลอนดอน ก็คล้ายๆกับถนนคนเดินที่บ้าเราคะ มีของพวก hand made, second hand ให้เราได้เลือกชม
เราออกจากที่พักนั่ง tube  มาลงที่สถานี Nothing Hill Gate ออกจากสถานีก็จะมีป้ายบอกคะ แต่ถ้าไม่ชัวร์ก็เดินมาคนกลุ่มใหญ่ไปได้เลย คนเยอะมากจริงๆ

เดินตามผู้คนมา

เริ่มเข้าย่านPortobelloแล้ว

วันนี้อากาศดีมีแดดออก แต่ก็หนาว 3-4 องศาได้

ร้านที่เราสอยของมาได้


เดินตามไปเรื่อยเราก็จะเริ่มเห็นร้านค้าแล้วคะ ของก็เยอะคนก็เยอะ เวลาเปิด-ปิดก็ตามนี้นะจ๊ะ
Market opening times
09:00 – 18:00 Monday To Wednesday
09:00 – 13:00 Thursday
09:00 – 19:00 Friday and saturday.
The antiques and bric-a-brac stalls are open only on Saturdays and trading may start a little earlier.
Ref.:http://www.portobelloroad.co.uk/the-market/
ภาระกิจของเราที่นี่คือหาร้านคัพเค้กที่ชื่อ The hummingbird bakery คะ

เดินแวะร้านโน้นทีร้านนั้นที ก็ได้แต่ดูละคะ เดินเพลินๆ เราก็เจอแล้วคะร้านเค้กที่เพื่อนตามหา คนก็เยอะใช่ยอ่ยทีเดียว


เราแทรกตัวเบียดเข้าไปสอยขนมมาหนึ่งชิ้น  เป็นบรานี่ Frosted brownie สนราคาก็ 3.45 ปอน์ด เหอๆ แบ่งกันกินละกันเนาะชิ้นเดียวก็พอ แต่ถ้านั่งกินที่ร้านก็แพงขึ้นไปอีกนิดหน่อยนะ ราคาจะอัพเป็น 3.90 ปอน์ด  





ได้ขนมแล้วก็เดินกันต่ออันน้พึ่งต้นสายเอง เริ่มถึงโซนที่ขายของกินแล้วคะ ขนมหน้าตาแปลกๆไม่เคยกินเต็มเลย
ถ่ายรูปได้รูปเดียวคุณป้าคนนั้นก็ตะโกนว่าไม่ให้ถ่ายรูปนะ เอิ่มมมีงี่ด้วย ไม่ถ่ายก็ได้ ถ่ายร้านอื่นแทน เหอๆ 



ราคาขนมส่วนใหญ่ก็ สองปอน์ดกว่าๆทั้งนั้นเลย สามก็มี



























แล้วเราก็มาเจอ supermarket ที่ของในร้านราคา 1 ปอน์ด










ได้เวลาหามื้อเที่ยงกินแล้วคะที่นี่เค้าจะซื้ออาหารแล้วก็มานั่งกินกันริมฟุตบาทเลย เราก็เอาบ้าง ได้ข้าวผัดสเปนที่มีไก่สองชิ้น ราคา 6 ปอน์ดกว่าๆ ตามเคยคะเราแบ่งกันกินสองคนกล่องเดียว เพราะว่ามันก็เยอะอยู่นะเป็นการประหยัดไปในตัวด้วย อิๆ


เดินมาจนสุดสายก็จะเป็นพวกของมือสอง ทั้งfurniture และเสื้อผ้าแล้วก็น้องหมาตัวนี้



















ไหนๆวันที่เป็นทริปเดินตลาดเราก็เลยจะไปอีกที่คะ Camden Road ซึ่งอยู่ออกไปในโซน 2 คะ เราต้องไปเปลี่ยน Overground เพื่อนั่งไปลงสถานี Camden Road ออกจากสถานีเดินตามป้ายไปเลยคะไม่ต้องกลัวหลงที่นี่ป้ายบอกทางเค้าดีมาก

 Camden Road บรรยากาศแตกต่างกับ Portobello เลยคะออกแนว dark dark rock rock แบบว่ามีคนแต่งตัวออกแนว rocker กันด้วยแนวมาก 

เราหลงเข้าไปในร้าน Aldo outlet ซักพักใหญ่ออกมากก็หิวเลยไปหาของกิน มื้อนี้เป็นอาหารแบบเอเชียคะ กล่องหนึ่งเลือกได้สามอย่างว่าจะเอาอะไรบ้าง สนราคาก็ 5-6 ปอน์ด 








ที่นั่งกินข้าวเก๋ดีนะ ไม่ต้องนั่งที่พื้นริมฟุตบาทละ


























เราออกจาก Camden town แล้วนั่งรถเมล์คะ ก็ดูป้ายปลายทางแล้วก็นั่งมั่วๆเอาคะ แล้วที่หมายสุดท้ายของเราในวันนี้ก็คือ  Tower Bridge คะ ไปถ่ายภาพช่วง Twilight