Friday, November 15, 2013

สองคนเพื่อนตายลุยยุโรป-> London, UK

ทริปของเราสองคนเพื่อนซี่ยังไม่จบค่ะ ประเทศสุดท้ายที่เราสองคนจะไปก่อนส่งเพื่อนสาวกลับไทยนั้นก็คืออังกฤษนั้นเองคะ สำหรับตัวเองไม่ได้คิดว่าจะมาอังกฤษหละคะ แต่เพื่อนนี่หลงไหลและใฝ่ฝันจะมาอังกฤษม๊าก มาก ก็เลยต้องสะนอง need กันนิสนึง แต่กว่าจะได้ออกเดินทางมาอังกฤษได้ก็เจอบทพิสูจน์ความพยายามไปซะเยอะเลยคะ จากที่วางแผนว่าจะนั่งเครื่อง เราก็ต้องไปเปลี่ยนนั่งรถไฟ EuroStar แทนเพราะว่าเหตุการณ์และอุปสรรค์ต่างๆที่เล่าไว้ในตอนต้น 

เรากลับจากอิตาลี่วันที่ 4 คะ ถึงปารีสก็ค่ำๆแล้ว เรามีเวลาpack กระเป๋าแค่คืนนี้เท่านั้นคะ เพราะเช้าวันที่ 5 เราก็ต้องไป ลอนดอนกันแล้วคะ รถไฟเราออก 9:10 นาทีคะ ด้วยความที่ไม่เคยนั่งรถไฟไปประเทศที่ไม่ใช่เชงเกนก็เลยใจเย็น ออกหอตอนเจ็ดโมงกว่าๆ แล้วรถไฟ RER ขบวนที่เข้าปารีส ที่จะวิ่งไป Gare du Nord กลับไปไม่ถึงคะ เราต้องไปเปลี่ยนรถ Metro สายอื่นที่วิ่งไป Gare du Nord แทน กว่าจะหาได้ว่าสายไหนไปถึงเร็วสุด ก็แทบแย่คิดไม่ทัน เพราะเวลาจวนเจียน แถมต้องวิ่งลากกระเป๋าใบใหญ่ ของเพื่อนวิ่งขึ้นลงบันไดเมโทรแทบแย่ค่ะ ตอนนี้อีกไม่กี่นาทีก็จะ 9 โมงแล้วคะ วิ่งไปแทบตายกว่าจะถึง platform ที่ขึ้นรถไฟ เราไปถึงประมาณ 9โมงพอดิบพอดี แต่ก็ไม่ทันค่ะ หมดเวลา check-in แล้วไปไม่ทันเที่ยว 9:10 หืออทำไงดี ตกรถเหรอ!!!  

เราก็ไปพูดกับเจ้าหน้าที่ๆ checkin ว่าเพราะรถ RER มัน delay เราต้องไปเปลี่ยนเมโทรเลยมาไม่ทัน ช่วยด้วยนะคะ Please please please กันอยู่สองคน เจ้าหน้าที่ก็เลยบอกว่า โอเคไม่เป็นไรแล้วเค้าก็เขียนอะไรบนตั๋วเราซักอย่าง แล้วบอกว่าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ข้างในนะให้ออกตั๋วให้ใหม่ เราก็มารอคิวที่counter ข้างในคะ ยื่นตั๋วที่เจ้าหน้าที่คนเมื่อกี้เขียนให้ แล้วเค้าก็บอกว่าปกติแล้วเราจะคิดค่าบริการนะ แต่เราออกให้ฟรีนะ สำหรับตั๋วใหม่เที่ยว 10:10 โอ้ยยยโล่งไปคะนึกว่าจะเสียเงินฟรีซะแล้ว ก็ตั๋ว eurostar นี่ราคาเกือบร้อยยูโรเลยทีเดียว ก็ยังดีที่ไม่ต้องซื้อใหม่

อ้อส่วนสาเหตุที่เราไม่สามารถขึ้นเราได้เแล้วเพราะจริงๆ เราต้องไปล่วงหน้าก่อนเวลารถออกประมาณ ครึ่งช่วงโมงคะ เพราะไปอังกฤษต้องผ่าน ตม. เค้าจะซักถามว่าเราจะไปทำอะไรที่อังกฤษ พักที่ไหน ไปกี่วัน แล้วก็ตรวจกระเป๋า อีกคะ ไม่ได้เหมือนการนั่งรถไฟไปเมืองหรือประเทศอื่นๆใน Schengen ที่ไปก่อนหน้าไม่กี่นาทีได้เพราะไม่ต้องตรวจอะไร เอาละคะยังไม่ออกเดินทางก็ตื่นเต้นซะละ เหอๆ เค้าถึงเรียกว่าประสบการณ์ไงคะ ไม่เคยไปมาก่อนก็เลยไม่มีประสบการณ์ 


นั่งรถไฟมาสองชั่วโมงที่รอดอุโมงใต้ทะเล เราก็มาถึงสถานี King Cross แล้วละคะ (สถานีที่แฮรรี่นั่งไป Hogwart ไงค่ะ อิๆ) จากที่นั่นเราต้องนั่งรถไฟต่อไปสถานี Paddington เพราะเราจะอยู่ที่นั้นกันสามคืนคะ 
ที่พักใน London ค่อนข้างแพงคะ ถ้าอยู่ในตัวเมืองก็จะราคาแพงมาก ที่ถูกๆหน่อยก็จะอยู่นอกเมือง เพราะฉะนั้น Hostel ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเราคะ แม้ว่าจะอยู่ Hostel ก็ตามราคาก็ยังแพงกว่า Hostel ที่อิตาลี่อยู่ดี แต่เรา Save ค่าอาหารเช้าได้คะ เพราะเค้ามีบริการ แต่ก็เป็นแค่ขนมปัง นม ซี่เรียล  และ โยเกิร์ต

การเดินทางในลอนดอนก็ใช้ได้ทั้งรถเมล์ และรถไฟคะ เรายืมบัตรโดยสารแบบเติมเงินจากเพื่อนมาเรียกว่า Oyster อ่านในหนังสือเค้าบอกว่าถ้าอยู่เกิน 5 วันให้ซื่อแบบเหมาเป็นอาทิตย์ไปเลยคะ ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะอย่างนั้น พอไปกดหน้าตู้จะเติมเงินเป็นอาทิตย์ ก็ตกกะใจกับราคาคะ 30 กว่าปอน์ดเลยที่เดียว ก็เลยเติมเงินแบบธรรมดาเอาคะ กะว่าน่าจะพอๆกัน   ภาระกิจวันนี้เราจะไปถ่ายภาพช่วง twilight ที่ London eye และ Big Ben คะ แต่แวะกินอาหารญี่ปุ่นร้านที่ใน Guidebook ของเพื่อนแนะนำไว้ 

ออกจากที่พักเราก็นั่งรถเมล์สองชั้นเพื่อชมวิวรอบเมืองเล่นกันคะ
ย่านที่เราอยู่มีรถเมล์หลายสายวิ่งผ่าน ซึงส่วนใหญ่ก็จะผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ด้วย รูปข้างบนเป็นย่านที่เราพักคะ
 ขึ้นรถเมล์ปุ๊บเราก็ขึ้นไปนั่งบนชั้นสองหน้าสุดเลยคะ

รถเมล์ที่นี่คนไม่แน่นเลยค่ะ สะบายๆ

ผ่านย่านการค่าอย่าง Oxford Street คนเยอะจริงๆ รูปนี้ถ่ายจากบนรถเมล์นะ

เราแวะลงแถว Soho คะ อารมณ์ China town อ่ะคะ เพื่อไปหาอะไรกินก่อน ใน Guidebook เค้าแนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นราคาไม่แพงมาคะ เข้าไปในเราพนักงานส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทยคะ เหมือนอยู่เมืองไทยเลยแฮะ อิ่มแล้วเราก็เดินเล่นถ่ายรูป ทั้งรถเมล์สีแดง ตู้โทรศัทพ์สีแดง แล้วก็รถแท๊กซี่ทรงน่ารักๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ลอนดอนกันคะ



ไป Big Ben กับ London Eye ไปได้ทั้งรถเมล์ จำสายไม่ได้แล้วอ่ะคะ หรือไม่ก็นั้งรถไฟใต้ดิน(Tube)ไปออกที่สถานีนี้เลยคะ Westminster
ออกจากสถานีมาก็เจอเลยค่ะ Big Ben








ตอนนี้ยังมีแสงอยู่คะ ยังไม่ Twilight เท่าไหร
หันมาอีกด้านของแม่น้ำ ก็เป็น London Eye ค่ะ


เดินไปเรื่อยๆ จนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้วค้าา เราเดินข้ามสะพานมาฝั่งเดียวกับ London Eye
รอจนเค้าเริ่มเปิดไฟ



ถ่ายไปเรื่อยๆ จนเริ่มมืดแล้วค่ะ รู้ตัวอีกทีก็หนาวจนจะไม่ไหวแล้ว

กลับไปพักหาอะไรอุ่นๆกิน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยลุยกันใหม่จ้าา

No comments:

Post a Comment