Friday, August 23, 2013

บทสาม: เริ่มเที่ยว ฝรั่งเศส



เมื่อพร้อมแล้วการเดินทางของเราก็เริ่มต้นขึ้นคะ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ออกมานอกประเทศไกลขนาดนี้ เมื่อก่อนไกลสุดก็พม่าตรงด่านแม่สายแค่นั้นเอง แต่คราวนี้เดินทางไกลกว่า 13,000 กม. ตื่นเต้นจริงๆ อาจจะเวอร์ไปหน่อย แต่เชื่อเถอะคะถ้าคุณเป็นเด็กบ้านๆคนหนึ่งที่มีความฝันแล้ววันหนึ่งฝันของคุณเป็นจริง หัวใจของเราก็จะพองโตมิช่ายน้อย 

12 ชั่วโมงบนเครื่อง นานมากหลับแล้วหลับอีก ไม่ถึงซักทีเมื่อยมาก แล้วในที่สุดเราก็มาถึงคะ สนามบิน Charles de Gaulle ที่อยู่ในหนังสือเรียนฝรั่งเศสสมัยมัธยมได้มาเห็นแล้วว  การเดินทางในยุโรปกำลังจะเริ่มต้นขึ้นคะ อย่างแรกเลยคือไปมหาลัย โชดดีที่เราได้ทุนจาก Campus France คะเค้าใจดีจัดรถมารับถึงสนามบิน วันแรกที่มาถึงอากาศดีคะอุณหภูมิประมาณ 20 กว่าๆเย็นสะบาย (ต้นเดือนกันยา) มหาลัยที่จะไปเรียนอยู่ชาญเมืองปารีสคะ ถ้าไม่มีรถมารับต้องนั่งรถไฟสองต่อ นั่งรถไฟชาญเมืองคะเรียกว่า RER เป็นสายที่วิ่งรอบนอกปารีส ส่วนที่อยู๋ในเมืองเค้าเรียก Metro คะ
 จากสนามบินกว่าจะถึงมหาลัยก็ปาไปสองทุ่มแล้ว แต่ยังไม่มืดมาก เก็บกระเป๋าแล้วก็ออกไปสำรวจหิวด้วยกินอะไรดีนี่สิ สิ่งที่ประหลาดใจคือ สองทุ่มร้านรวงปิดหมดแล้วคะ ไม่มีอะไรขายให้กินแล้ว ดีว่าเจอเพื่อนชาวเวียตนามที่มาจาก AIT ด้วยกัน เค้าเลยหานมขนมให้กินไปพลางๆไว้ว่ากันใหม่พรุ่งนี้เช้า 
อาทิตย์แรกที่ไปถึงยังไม่เปิดเรียนคะ ฉะนั้นแล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเข้าเมืองไปดูหอไอเฟลของจริงซักหน่อยคะ แต่ก่อนจะออกเดินทางขออธิบายระบบ transportation ในปารีส Ill-de-France ให้ฟังคราวๆก่อนหละ(เอาเท่าที่รู้)

 ระบบการขนส่งในปารีสและชาญเมืองปารีสแบ่งออกเป็น 6 โซนคะ โดนมหาลัยที่เรียนอยู่ๆ โซนที่ 5 คะส่วนปารีสและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ จะอยู่โซน 1-2 คะ พระราชวังใหญ่ เช่น Versaille, Fontanbeau ก็จะอยู่นอกๆ แถวโซน สาม-สี่ นี่หละคะ ที่แบ่งโซนแบบนี้แน่นนอนคะราคาตั๋วก็แพงออกไปอีกตามๆกัน แนะนำใครที่จะไป หาไกด์บุ๊คมาอ่านนะคะ ว่าราคาและรูปแบบของตั๋วเป็นอย่างไรเพราะราคาตั๋วรถไฟปรับขึ้นทุกปีคะ 

ตั๋วรถไฟมีหลายประเภทมากคะ มีทั้งที่เป็นบัตรแข็งสำหรับคนที่อยู่นานๆใช้ประจำ เค้าเรียกกันว่า Navigo คะ ทำได้ฟรีคะ แต่ต้องมีเตรียมเอกสารกันนิดหน่อย เป็นบัตรที่เอาไว้เต็มเงินหรือซื้อเที่ยวโดยสารค่ะ โดยจะเติมได้เป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือนก็ได้ ถ้าคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเดินทางเป็นประจำทุกวัน เค้าก็จะเติมเป็นรายเดือนแล้วแต่โซนที่อยู่และเดินทางคะ ซึ่ง option นี้สำหรับตัวเองถือว่าแพงมากคะ เพราะอยู่โซน 5 เข้าไปเที่ยวในปารีสคือโซน 1 ต้องซื้อโซน 1-5 แค่อาทิตย์เดียวก็ปาไป 30 กว่ายูโรแล้วแพงมากคะ
เราเลยใช้ตั๋วเป็นครั้งๆไปดีกว่าคะ

บัตรแข็งอีประเภทหนึ่งเรียนว่า Imaginaire คะเป็นบัตรสำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 26 ปีคะ ค่าโดยสารจะถูกกว่าครึ่งหนึ่ง เช่นถ้าซื้อรายเดือนโซน 1-2 แบบแรกจะเสียประมาณ 60 กว่าๆ แต่ถ้าเป็นบัตรแบบนี้เสียแค่ครึ่งราคา ใครที่อายุยังน้อยแล้วอยากไปให้รีบไปนะคะ เพราะต่ำกว่า 26 เนี่ย Museum ทั้งหลายในปารีสเข้าฟรีหมดค่ะ เราไปตอนอายุ 27 แล้วเสียดายมากๆ ทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้ 

รายละเอียดเรื่องตั๋วโดยสารแบบอื่นๆ หาได้ที่นี่นะคะ http://www.ratp.fr/

สรุปว่าทางเลือกที่ถูกที่สุดก็คือ บัตร Mobilis Jeune คะสำหรับ โซน 1-5 ราคาประมาณ 7.8X ยูโรคะ แต่ราคานี้เฉพาะเดินทางเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะ วันธรรมดา 15 ยูโรคะ จริงๆบัตรนี้เค้าให้เด็กอายุไม่เกิน 26 ใช้คะเพราะชื่อก็บอกว่า Jeune  แต่เราซื้อมาใช้ได้ไม่ผิดอะไรคะ หน้าเด็กๆเนียนได้ แล้วเวลาเค้าตรวจตั๋วเค้าก็ดูแค่ว่าเราซื้อตั๋วมาถูกต้องคะไม่ได้โดดเข้ามาแบบไม่มีตั๋วแบบที่พวกคนดำชอบทำ ซึ่งตั๋วประเภทนี้ใช้กับรถโดยสารได้ทุกประเภทในระบบคะ ใช้ได้ทั้งวันไม่ว่าจะขึ้น metro, RER, bus, tram ไปได้หมดสะบายหายห่วงกี่รอบก็ได้ ระวังแค่อย่าทำมันหายคะ เพราะมันใบเล็กมากแล้วใช้เสียบเข้าๆออกๆ ตลอดเวลาบางทีก็ลืมไม่รู้เก็บไว้ตรงไหน 

เข้าเมืองมาแล้วก็ไม่พลาดที่จะไปทุกๆ land mark ที่สำคัญของปารีส อาจจะดูโลภซักหน่อย ที่ไปซะเกือบครบ ก็มันอยากเห็นทุกอย่างที่เรียนมาในหนังสือนี่ค่ะ ขอเถอะนะรอเวลานี้มานาน 

ไม่ต้องสงสัยเลยคะว่าที่แรกที่จะไป ก็คือหอไอเฟลคะ ระบบรถไฟที่โน้นออกจะซับซ้อนไปหน่อยสำหรับวันแรกค่ะ เพราะมันมีหลายสายมาก ดูยังไงก็ไม่รู้ไม่มีใครมาบอก มีไกด์บุ๊ดอยู่หนึ่งเล่มเป็นตัวช่วย จะใช้ประสบการณ์ที่ขึ้นรถไฟ้ใต้ดินที่ กทม ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะบ้านเรามีสายเดียว อันนี้มีเป็นสิบๆสายโยงกันเป็นใยแมงมุม แต่พอเข้าใจระบบแล้วก็ไปได้คะ ง่ายมากแค่ดูว่าสถานที่ๆเราจะไปสายอะไรผ่าน แล้วสายนั้นต้นสาย กับปลายสายชื่ออะไร แล้วเราก็ดูป้ายแล้วก็เดินๆตามไปคะ ขึ้นซักสองสามครังก็เกทเองคะ 
ถึงแล้วคะ La tour Eiffel สถานีรถไฟที่ใกล้หอไอเฟลที่สุด ก็มี Trocadéro, Champ de Mars -Tour Eiffel ถึงจะใกล้ที่สุดแต่เราก็ต้องเดินอีก 5-6 ร้อยเมตรได้ ใครไม่เคยชินกับการเดินนะคะ อยู่ที่นี่ได้เดินจนผอมไปเลยหละคะ อาทิตย์แรกที่ไปถึงอากาศดีคะมีแดด แล้วก็เย็นสะบาย คนไทยอาจไม่ชอบแดด แต่อยู่ๆไปเราจะรักแสงแดดมากทีเดียว โดยเฉพาะหน้าหนาวที่หนาวจนปวดหัว ถ่ายรูปชื่นชมกับหอไอเฟลจนสมใจ ก็ดำดินไปต่อกันที่ ประตูชัยคะ Arc de Triomphe โฝ่ลจากเมโทรสาย 1 สถานี Charles de Gaulle - Étoile ก็เจอเลยคะ ไม่เดินไกลเหมือนหอไอเฟล ก็เดินเล่นถ่ายรูปตามประสา 

ได้เวลาอาหารกลางวัน อาหารฝรั่งเศสมื้อแรกก็คือ French Fried ของ Mc Donal ฝรั่งเศสของจริงมาก แบบว่าสั่งไม่เป็น ไอ้ที่เรียนมาก็ลืมหมดแล้ว อีกอย่างยังตกใจกับราคาที่แอบแพงด้วย จานหละสิบกว่ายูโร มาถึงใหม่ๆไม่รู้แหล่ง ก็กิน Mc ไปก่อนแล้วกัน

อิ่มแล้วก็ไปต่อที่ Louvre คะก็ต่อเมโทรสายหนึ่ง ไปลงที่ Palais Royal Musee du Louvre กันเลย วันนี้เป็นทัวร์ชะโงกคะเรายังไม่เข้าชมอะไรทั้งนั้น เพราะยังอยู่ที่นี่อีกหลายเดือน รอวันอาทิตย์แรกของเดือนค่อยมาคะ เพราะเค้าเปิดให้เข้าชมฟรี ประหยัดเงิน อิๆ 

จากนั้นนัดพี่คนไทยไว้คะ พี่เค้าก็พาเดินจาก Louvre ไป Notre-dame ดีมากเลยคะที่ได้เดิน ได้ชมเมืองเต็มที่ ไม่ต้องดำดินมืดๆ ระหว่างเดินก็มีกลุ่มคน หน้าตาออกแขกๆเอเชียๆ มาให้เราเซ็นชื่อคะ พี่เค้าบอกว่าอย่าไปเซน ให้เดินหนีเลยเพราะคนที่ไม่รู้เซนชื่อเสร็จเค้าจะเก็บเงินจากเรา เพราะเอกสารที่เซนข้างล่างเขียนว่าเรายินยอมจ่ายเงินเท่านี้ ให้ หากินกันง่ายๆแบบนี้เลย มีเยอะคนแบบนี้ในปารีส และสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆในประเทศอื่น ระวังๆไว้ก็ดีคะ

สุดท้ายพี่เค้าพาไปย่าน China town คะ Quartier chinois อยู่เขต 13 คะ เมโทรสาย14 สถานี Olympiades ซึ่งเป็นแห่งที่สำคัญเรื่องอาหารการกินสำหรับเราคะ เครื่องปรุ่งเครื่องเทศของเอเชียหาได้จากที่นี่คะ แน่นอนเราต้องทำกับข้าวกินเองคะ เพราะเราจะเจอแต่ขนมปังซึ่งไม่ทำให้รู้สึกอิ่มและร่างกายต้องการข้าวคะ เท่าที่อยู่มารู้สึกว่าอย่างน้อยในหนึ่งวันต้องได้กินข้าวไม่งั้นอยู่ไม่ได้ ห้าๆ แม้ใครจะบอกว่าอาหารฝรั่งเศสนั้นเลิศรส แต่คนไทยอาหารไทยนี่หละอร่อยสุดๆแล้ว อีกอย่างเพื่อนที่อยู่มาก่อนแนะนำว่า เราควรประหยัดเรื่องกินคะเพราะเป็นเรื่องเดียวที่ประหยัดได้ และการทำกับข้าวกินเองนั้นประหยัดสุดๆคะ
ทริปแรกวันนี้ก็จบแล้วคะ ได้สำรวจครบทุกทีสมใจ ^_^

ปารีสไม่ช่ายฝรั่งเศสนะคะ ยังมีอีกหลายที่ๆไป ไว้จะทยอยเล่าก็แล้วกัน

No comments:

Post a Comment