ก็อย่างที่เคยได้ยินคะ เวลาพูดถึงฝรั่งเศสทุกคนก็จะนึกถึง หอไอเฟล ปารีส เมืองน้ำหอม แต่คงไม่ช่ายสำหรับเด็กมนุษย์ฝรั่งเศสที่เรียนมานาน เพราะฝรั่งเศสก็เหมือนบ้านเราหละคะแต่ละภาคก็มีภาษาและวัฒนธรรมของตัวเอง พูดมาซะเยอะไม่ได้จะพาไปไหนไกลคะ เมืองข้างๆกับมหาลัยนี่เอง ชื่อว่า Corbeil ไม่ต้องสงสัยคะว่าทำไมไม่รู้จักเพราะเป็นแค่เมืองเล็กๆที่ มีแม่น้ำแซนไหลผ่าน แล้วก็มีตลาดนัดและ ขนมอร่อยๆ ให้เราไปช๊อปปิ้งคะ เป็นเมืองที่ได้เห็นชีวิตคนที่เค้าอยู่กันจริงๆ
ด้วยความได้เปรียบที่เราอ่านและพูดฝรั่งเศสได้ แต่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหรไม่ได้ใช้มานาน ฝุ่นมันเกาะหมดแล้ว ก็หาข้อมูลไปเรื่อยคะเพราะสงสัยว่าแถวที่ๆเราอยู่มันจะไม่มีอะไรให้เที่ยวเลยจริงๆเหรอ นอกจาก carrefour หาจนได้ความว่า มีเมืองข้างๆชื่อ Corbeil ดูในรูปเมืองก็น่ารักดีแล้วก็มีตลาดนัดทุกวันอาทิตย์ ก็เลยลากเพื่อนไปค่ะ ส่วนวิธีไปก็ไปได้สองทาง รถเมล์กับรถไฟ RER นี่หละคะ รถไฟสถานีเดียวถึง รถเมล์ก็ครึ่งชั่วโมง เสริมอีกนิดคะเรื่องภาษาเนี่ยใครอยากมาเที่ยวพูดไม่ได้ก็ไม่เป็นไรคะ แต่ถ้าคุณพูดฝรั่งเศสได้ คนฝรั่งเศสที่น่าบึ่งๆใส่คุณจะ niceขึ้นมาทันที ก็อารมณ์เดี๋ยวกับเรานี่หละคะ ที่พูดอังกฤษไม่ได้เห็นฝรั่งเราก็ไม่อยากคุยด้วย แต่ถ้าฝรั่งพูดไทยได้เราก็ยินดีคุยกับเค้าเต็มที่ก็แบบเดียวกันนั้นหละคะ แต่เท่าที่อยู่มาไม่เคยเจอคนแย่ๆใส่เลยนะ แต่เพื่อนๆที่อยู่มาก่อนบ่นกันเป็นแถวๆ เพราะติดต่ออะไรกับเจ้าหน้าที่ก็ต้องพูดฝรั่งเศสหมดหุๆ เมืองนี้ก็ไม่มีอะไรมากคะเราแค่มาหาของกินอร่อยๆ สตอเบอรี่กล่องนั้นก็ 1-2 ยูโรคะ แล้วแต่ฤดูกาล
ตอนแรกกะจะแยก แต่นึกไม่ออกแล้วจะเขียนอะไร เอาทริปอื่นมาต่อเลยแล้วกัน
ขยับขึ้นไปทางเหนือของฝรั่งเศสอีกนิดคะ Normandie จริงๆตั้งใจอยากจะไป Mont-Saint-Michel เป็นโบสถ์เก่าแก่อยู่บนเกาะสวยมาก แต่ก็ไปไม่ถึงคะด้วยอะไรหลายๆอย่าง เป็นที่ๆเดี่ยวที่อยากไปแล้วไม่ได้ไป ติดไว้ก่อนนะ......แล้วจะไปใหม่
จากไกด์บุ๊คที่เอาติดตัวมา ก็ทำให้เราหาเรื่องเที่ยวเมืองอื่นๆบ้างใกล้ๆ เมืองที่กำลังจะพาไปชื่อ Rouen คะเป็นบ้านเกิดของ Joan of Arc หรือ Jeanne d'Arc
พาหนะหลักในการเดินทางของเราก็คือรถไฟคะ ระบบรถไฟที่นี่ครอบคุลมทั้งฝรั่งเศสคะ เร็วและตรงเวลา อาจจะไม่เป๊ะมากแบบสวิสแต่ก็ดีกว่าบ้านเราเป็นไหนๆ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าชอบเที่ยวแล้วอายุไม่เกิน 26 แนะนำให้ซื้อบัตรส่วนลดไปเลยคะเพราะลดได้ 25-75% ของราคาตั๋วเลยทีเดียว บัตรลดจะราคาประมาณ 50ยูโรคะ ใช้ได้ 1 ปี แต่ถ้าอายุเกิน 26 แล้วไม่ต้องซื้อดีกว่าคะ หาตั๋วโปรโมชั่นน่าจะถูกกว่าเพราะซื้อมาแล้วรู้สึกว่าไม่คุ้มเลย เว็บไซด์การรถไฟฝรั่งเศส http://www.voyages-sncf.com/ จองตั๋ว online ได้เลยคะ โดยราคาตั๋วก็เหมือน low cost airline บ้านเราคะจองล่วงหน้านานๆก็จะถูก บ้างช่วงมีโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ก็มี ต้องติดตามโปรโมชั่นให้ดีคะ แต่ถ้าไม่มีโปร บางทีตั๋วเครื่องบินยังถูกกว่าอีกคะ
สายการบิน Low cost ที่โน้น ก็ http://www.easyjet.com/ ถ้าเราซื้อตั๋วราคาปกติ ก็สามารคืนตั๋วได้คะ หรือสามารถแลกตั๋วได้ด้วย
ทริปส่วนใหญ่ก็จะไปกันเสาร์อาทิตย์คะ เพราะว่ามีเรียน มีแต่ช่วงหลังๆที่ไม่มีเรียนแล้ว ลากยาวได้ ทริปนี้ สองวัน หนึ่งคืนคะ ตอนแรกตั้งใจจะไปแค่ เมือง Rouen ไปตามที่ๆ ไกด์บุ๊คบอกไว้แบบว่าชิวๆ
ปรากฏว่าไปถึงเมืองเป็นวันหยุดอะไรซักอย่างของฝรั่งเศสคะ สถานที่ๆจะไปเยี่ยมชม ร้านค้าปิดหมด ก็เลย เปลี่ยนแผนกระทันหันมากก ซื้อตั๋วรถไฟใหม่หน้าตู้แล้วก็ไปอีกเมืองที่ จะต้องไปต่อรถบัสเพื่อไปเมืองชายทะเล ตามรูปข้างๆนี้อะ จำชื่อไม่ได้ แต่หลายคนอาจจะเคยเห็นเพราะเป็นฉากในหนังและละครอยู่หลายเรื่อง
พอไปถึงสถานีที่ต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสปรากฏว่ารถบัสมีแค่วันหละสองเที่ยว และเที่ยวต่อไปที่จะมาก็เย็นโน้นเลย สรุปไปไม่ได้ ทำไงต่อ...... เราตัดสินใจไปอีกที่หละกัน ยังไม่เลิกล้มความพยายามที่จะไปเห็นทะเลทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ก็นั่งรถไฟต่อไปคะโดยที่ตั๋วเราก็ไม่ค่อยจะถูกต้องเท่าไหร เพราะอะไรก็จำไม่ได้ จำได้แต่ว่าตอนที่เค้ามาตรวจตั๋วน้องที่ไปด้วยตื่นเต้นและรนมากกลัวโดนจับ แม้ในใจเราก็กลัวแต่ด้วยความเป็นพี่และเป็นคนนำเพื่อนมาก็ต้องใจดีสู้เสือทำหน้าเนียนๆ คุยกะคนตรวจตั๋วไป ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างผ่านไปด้วยดี คนตรวจตั๋วแค่บอกว่าวันหลัง validateตั๋วด้วยนะ แค่นั้นรอดไปเหอๆ
ระบบขนส่งในแต่ละเมืองก็ไม่เหมือนกันคะ ต้องศึกษาไปว่าเค้าเดินรถอะไรแบบไหน ก็อย่างเมือกี้ที่รถบัสวิ่งแค่สองเที่ยวต่อวันไม่ได้มีตลอดก็ทำให้เราพลาดและเสียเวลา แต่บางครั้งการที่เราออกนอกเส้นทางบ้างก็ทำให้ได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งหาไม่ได้จากการไปกับทัวร์นะ
น้ำมูกไหลกันจนสมใจแล้วก็ได้เวลากลับไป Rouen คืนนี้เราจะพักที่นั้น หาอะไรกินแล้วตอนเช้าเราค่อยเที่ยวเมืองนี้กัน เก็บกระเป๋าเข้าที่พักเรียบร้อย เราก็ตื่นเต้นกับแสงสีอีกฝากของแม่น้ำคะ มีงานวัดหรือนั้น ห้าๆ
ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเทศกาลอะไรแต่ก็ทำให้ทริปนี้สนุกสนานทีเดียว เห็นขนมของกินแปลๆมากมาย
มีตู้ที่หยดเหรีญจับตุ๊กตาหรอกเด็กแบบที่เราเล่นกันสมัยเด็กๆด้วย เพื่อนหมดเงินไปเยอะทีเดียวไม่ได้ซักตัว สนุกสนานกับงานวัดตรงนี้ไม่น้อยคะ เช้าอีกวันเราจะเที่ยวในเมืองกัน
ลืมบอกไปคะว่า Rouen มีเอกลักษณ์ก็ตรงบ้านไม้ครึ่งปูนที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านแถบยุโรปตอนเหนือคะ ซึงไม่เหมือนในปารีสนะ แต่จะเหมือนกับบางเมืองในเบลเยี่ยมไว้จะพาไปค่ะ การเที่ยวในเมือง Rouen เราเดินทั้งหมดคะ จากสถานีรถไฟเดินมาที่พักแล้วก็เดินเที่ยวรอบๆเมืองคะ เหนือยขาลากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าใครจะไปเที่ยวเตรียมรองเท้าผ้าใบที่ใส่และเดินสะบายไว้คะ จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่
ก่อนจะปิดท้ายด้วยรูปของเมือง Rouen จะบอกว่าทริปสองเมือง สองวันหนึ่งคืนนี้ หมดเงินไปประมาณ 109 ยูโร รวมค่ารถที่พักทุกอย่างแล้ว ก็ถือว่าโอเคนะ สี่พันบาท ได้ไปตั้งสองเมืองก็พอๆกับเราไปเที่ยวหัวหินละคะจริงมั้ย
โลกใบนี้กว้างใหญ่ รอเราออกไปค้นหาไปตอนที่ยังมีแรงนะคะ อย่ามัวแต่รอ
เลยยังไม่เคยเห็นหอไอเฟลเลยครับ
ReplyDeleteไว้ไปใหม่ฮะ
Delete