Friday, September 27, 2013

สองคนเพื่อนตายลุยยุโรป: กว่าจะได้เที่ยว

ทริปนี้มีเพื่อนรวามทางเป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมากเราเคยพูดกันเล่นๆว่าให้ตามมาเที่ยวนะ ถ้าได้ไปยุโรปแล้วเพื่อนก็มาจริงๆเจ๋งสุดๆ  เราว่างแผนทริปนี้ล่วงหน้ามานานคะ ดูตั้งแต่ว่าจะมาช่วงไหนดี อากาศช่วงไหนโอเค ช่วงไหนน่าจะเครียงานเสร็จ ก็เป็นอันตกลงกันว่าปลายๆมีนา ต้นเมษาน่าจะโอเค เพราะผ่านช่วงที่หนาวที่สุดไปแล้วเข้าช่วงฤดูใบไม้ผลิ แล้วเรียนก็ใกล้จะจบแล้วตามระยะเวลาของโปรแกรม ไม่น่าจะมีงานอะไรมาก 

เราเริ่มคุยๆกันว่าจะไปไหนบ้าง เพื่อนคลั่งไคล้อังกฤษคะและอยากไปลอนดอนมาก เพราะฉะนั้นทริปของเราเลยออกมาแบบนี้ พอมาถึงก็พาเที่ยวฝรั่งเศสก่อนซักสองวัน เผื่อเวลาให้พักฟื้นจากอาการ Jet Lag แล้วไปลอนดอน จากนั้นกลับมาพักปารีส แล้วลุยอิตาลีก่อนกลับไทยโดยบินออกจากปารีส เมื่อตกลงกันแล้วก็เขียนแผนเที่ยวคราวๆค่ะ เราเองก็ทำจดหมายเชิญเพื่อนมาเที่ยว โดยที่พักนั้นจองโรงแรมใกล้ๆลอยไว้คะ เพราะถึงเวลาจริงแอบมานอนที่ห้องเราได้จะได้ไม่เปลืองค่าที่พัก แต่ไม่สามารถเขียนเชิญให้มาพักที่ห้องตัวเองได้ เพราะตามกฏเค้าหมายคนนอกเข้าคะ ก็ระยะเวลาทั้งหมดคือสองสัปดาห์ 
เดิมทีเพื่อนจะให้เอเจนซี่ที่รู้จักดำเนินการให้แต่สุดท้ายทำทุกอย่างเองคะก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด 

เนื่องจากเราต้องไปอังกฤษด้วยซึ่งต้องขอวีซ่าต่างหากไม่สามารถใช้ Schengenได้ ก็เลยต้องขอทั้งสองที่ โดย Schengen ขอของฝรั่งเศสคะเพราะเป็นประเทศที่เราอยู่นานสุดในทริป ส่วนจะขออันไหนก่อนดีหละ เอเจนซี่ที่เคยคุยไว้บอกว่าขอ Schengen  ให้ได้ก่อนแล้วค่อยไปขออังกฤษ แต่Schengen เองกลับ require ว่าถ้าจะไปประเทศอื่นนอกโซนให้ขอประเทศนั้นก่อนแล้วค่อยมาขอ Schengen  เราก็ไม่รู้ยังไงดีก็เลยตัดสินใจกันว่าขอ Schengen  ก่อนแล้วกัน  กำหนดการเดินทางมาฝรั่งเศสคือ 21 มีนา คะ ถึงก็ 22 เพื่อนได้วีซ่าทั้งสองครบแค่ไม่ถึง 1 สัปดาห์ก่อนออกเดินทางจวนเจียนมาก

แล้วเหตุการณ์ไม่ขาดฝันก็เกิดขึ้น วันที่ 21 เพื่อน เฟสมาบอกว่าาวีซ่า Schengen  เป็นแบบ Single Entry ตม.บอกว่าถ้าออกแล้วกลับเข้ามาโซนSchengen  ไม่ได้น่ะ 
เอิ่มม......สองคนที่อยู่คนละซีกโลกอึ่งกิมกี่ไปตามๆกัน  เอายังไงดีหละทีนี้ ตอนนั้นตัวเองก็คิดแค่ว่างั้นก็เปลี่ยนแผนเที่ยวในโซน Schenge ไม่ต้องไปอังกฤษ ในขณะที่เพื่อนซึ่งกำลังบินข้ามทวีปอยู่นั้นก็บอกว่า ยังไงฉันก็จะไปอังกฤษ..... ต่างคนต่างคิดแล้วค่อยว่ากัน พอรับเพื่อนจากสนามบินปุ๊ปก็พามาที่พักที่มหาลัยเลย ก็ยังตัดสินใจไม่ได้แต่ตามแผน คือพรุ่งนี้จะเข้าไปเที่ยวในปารีส option นึ่งที่ดูดีและเป็นไปได้คือเลื่อนตั๋วกลับค่ะ แล้วเปลี่ยนจากบินกลับจากปารีสเป็นลอนดอนแทน เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เราจะไปติดต่อที่สายการบินว่าเลื่อนตั๋วได้หรือไม่ 

วันเสาร์เราเข้าเมืองตอนแรกจะพาเพื่อนไปหาโมนาสิซ่า แต่ด้วยความกังวลเรื่องตั๋วเลยต้องพักทุกอย่างไว้ก่อนไปติดต่อสายการบิน Air France เสียเวลาไปครึ่งค่อนวันก็ยังเปลี่ยนไม่ได้คะ (โอ้วเขียนมาตั้งยาวยังไม่ได้ไปไหนเลย) เอาเป็นว่าสั้นๆ ในที่สุดก็เปลี่ยนตั๋วขากลับเป็น London-BKK แทนปารีสคะโดยให้เจ้าหน้าที่ Air France ที่เมืองไทยเป็นคนจัดการให้ และขยายเวลาเที่ยวเป็นสามอาทิตย์ ลอนดอนที่จองตั๋วเครื่องบินLow-cost ไว้เป็นต้องทิ้งทั้งหมดค่ะ เปลี่ยนไม่ได้ ขายต่อคนอื่นก็ไม่ได้ ส่วนที่พักยังพอเลื่อนได้ สุดท้าย plan ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็น ปารีส-เบลเยี่ยม-อิตาลี่-อังกฤษ แทนคะ

หมดปัญหาเรื่องตั๋วและวีซ่า ก็มาเจอกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บค่ะ วันแรกที่เพื่อนมาถึงเลขตัวเดียวเลยคะ เสื้อผ้าที่เพื่อนเอาติดตัวมาก็ไม่พร้อมเพราะตอนแรกบอกเพื่อนว่าน่าจะสิบกว่าๆนิดๆ นี่ปาไปเกือบ 0 องศา ปีนี้ฝรั่งเค้าบอกว่ามันเป็น Coldest March หนาวกันไปคะงานนี้ มีเสื้อกี่ตัวๆ ขนมาให้เพื่อนใส่หมดเพราะยังปรับตัวไม่ได้ ทริปสามอาทิตย์นี้มีอะไรให้เล่าเยอะคะ เอารูปมาเรียกน้ำย่อยไปก่อน เดี๋ยวจะรีบเขียนที่เหลือตามมาคะ







No comments:

Post a Comment